LINE@ คุณตาหินอ่อน >>> เพิ่มเพื่อน แชรฺ์ LINE >>>

วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ขอฝากให้ลูกๆทุกคนค่ะ...." เมื่อฉันแก่ตัวลง "

ผู้ชายคนหนึ่ง ที่ทั้งเรียนทั้งทำงานไปจนเติบกล้าเก่งขึ้นเรื่อยๆ ความรู้เพิ่มจนมองเห็นโลกเล็กลงมีแม่อยู่ที่เมืองจีน ซึ่งแก่ตัวลง ลูกคนนี้ทำงานอยู่ต่างประเทศ ไม่ค่อยได้กลับมาเยี่ยมแม่ ได้แต่ติดต่อกันทางจดหมาย ทุกครั้งแม่จะเตือนให้ระวังสุขภาพ ตั้งใจทำงานไม่ต้องเป็นห่วงแม่ ไม่ต้องกลับมาเยี่ยมบ่อยเพราะจะเปลืองเงิน
เขารู้ดีว่าแม่เริ่มคิดถึงเขามาก แม่อายุ 75 ปีแล้วเขาจึงตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมแม่ โดยตั้งใจว่าจะอยู่สัก 1 เดือนโดยจะไม่ทำอะไร ขออยู่เป็นเพื่อนแม่เพียงอย่างเดียว
เมื่อแม่ทราบ แม้จะมีเวลาอีกตั้ง 2 เดือน แม่ก็เริ่มเตรียมตัวต้อนรับการกลับมาเยี่ยมบ้านของลูกแม่ดึงเอาสมุดบันทึกมาจดสิ่งที่ต้องตระเตรียมแม่เตรียมรายการอาหารที่ลูกชอบ ดึงเอาผ้าห่มที่ลูกเคยชอบห่มมาปะชุนใหม
สำหรับคนอายุ 75 แล้ว เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเมื่อเห็นแม่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าผอมแห้ง หน้าตาเหี่่ยวย่น ช่างไม่เหมือนแม่คนก่อนหน้านี้เลย แม่ใช้เวลาทั้งชั่วโมงเตรียมอาหารที่ลูกเคยชอบ โดยที่หารู้ไม่ว่า เดี๋ยวนี้ลูกไม่ได้ชอบอาหารแบบนั้นแล้ว เพราะแม่ตาไม่ค่อยดี รสชาติอาหารจึงแย่มากๆ บางจานเค็มจัด บางจานก็จืดสนิท ผ้าห่มที่แม่อุตส่าห์เตรียมให้ ทั้งหนาทั้งหยาบห่มแล้วไม่สบายตัวเลย
แม่หารู้ไม่ว่า เดี๋ยวนี้ลูกนอนห้องแอร์และใช้ผ้าห่มขนแกะแล้ว แต่เขาก็ไม่บ่นอะไร เพราะเขาตั้งใจจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนแม่จริงๆ
สองสามวันแรก แม่ยุ่งอยู่กับเรื่องจิปาถะ จนไม่มีเวลาพักผ่อน พอเริ่มได้พัก แม่ก็เริ่มพูดมาก สอนโน่น สอนนี่ พูดแต่ปรัชญาเก่าๆ ซึ่งปรัชญาเหล่านั้น10 กว่าปีก่อนก็เคยพูดแล้ว พอลูกบอกให้ฟังว่า สิ่งนั้นไม่ทันสมัยแล้ว แม่ก็เริ่มนิ่งเงียบและเศร้าซึม
เหตุการณ์เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ผมรู้ว่าสุขภาพแม่แย่ลงโดยเฉพาะสายตา อาหารบางจานมีแมลงวันด้วยบางทีอาหารหกบนเตา แม่ก็เก็บใส่จานตามเดิมครั้นผมพยายามชวนแม่ไปกินข้าวนอกบ้าน แม่ก็ว่าอาหารข้างนอกไม่สะอาด ของแปลกปลอมเยอะ
เมื่อผมบอกแม่ว่าจะหาคนรับใช้มาช่วยแม่สักคนแม่ก็โวยวายว่า แม่เองยังสามารถทำงานเลี้ยงดูเด็กๆให้ผู้อื่นได้เลย ผมเลยพูดไม่ออก
พอผมจะออกไปช้อปปิ้ง แม่ก็ตามไปด้วย ทำเอาวันนั้นทั้งวัน ผมไม่ได้ไปช้อปปิ้งเลย พอผมเริ่มคุยกันในเรื่องทันสมัย แม่ก็จะหาว่าผมเพี้ยน ผมก็เริ่มบอกแม่อย่างไม่ค่อยเกรงใจว่า แม่นี่มันสมัยใหม่แล้วแม่ต้องหัดมองโลกในแง่ใหม่ๆบ้าง
ช่วงครึ่งเดือนหลังที่อยู่กับแม่ ผมขัดแม่มากขึ้นเรื่อยๆและรู้สึกรำคาญเพิ่มมากขึ้น แต่เราไม่เคยทะเลาะกันพอผมขัดแม่ แม่ก็หยุดกึกลงไม่พูดไม่จา ในตามีแววเหม่อลอย โลกซึมเศร้าแบบคนแก่ของแม่ชักหนักขึ้น
ได้เวลาที่ผมจะต้องเดินทางกลับ แม่ดึงกล่องกระดาษกล่องหนึ่งออกมา ในนั้นเป็นข่าวหนังสือพิมพ์ที่แม่ตัดเก็บไว้ในช่วงที่ผมไปอยู่เมืองนอก แม่เริ่มสนใจข่าว
http://pantip.com/topic/30636209
ต่างประเทศเมื่อผมเดินทางไปนอก ทุกครั้งที่มีข่าวตึงเครียดในประเทศนั้นๆ แม่จะตัดข่าวเก็บไว้ ตั้งใจจะ
มอบให้ผมตอนที่ผมกลับมา แม่พูดอยู่เสมอว่า อยู่เมืองนอกต้องระวังตัวให้มากๆ แม่ดึงเอาปึกกระดาษข่าวนั้นออกมาอย่างยากลำบาก วางใส่ในมือผม
เหมือนของวิเศษชิ้นหนึ่ง มันหนักมาก ผมเริ่มรู้สึกลำบากใจ เพราะไม่อยากนำกลับไป มันไม่มีประโยชน์อะไร ผมรู้ว่าแม่เก็บมันด้วยความยากลำบาก แม่สายตา
ไม่ดี ต้องใช้แว่นขยายอ่านได้วันละ 2 หน้าก็เก่งแล้วนี่ยังตัดเก็บได้ขนาดนี้
ทันใดนั้นมีข่าวแผ่นหนึ่ง ปลิวหลุดลงมา แม่รีบเอื้อมไปหยิบ แต่แทนที่แม่จะเก็บเข้ากองเดิม แม่กลับพับเก็บไว้ในกระเป๋าของตัวเอง ผมรู้สึกเอะใจ เลยถามว่า
“แม่ นั่นกระดาษอะไร ขอผมดูหน่อยนะ” แม่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงล้วงออกมาวางบนข่าวปึกนั้นแล้วเข้าครัวไปทันที
ผมหยิบแผ่นข่าวนั้นขึ้นมาดู มันเป็นบทความบทหนึ่งชื่อว่า “เมื่อฉันแก่ตัวลง” ตัดจากหนังสือพิมพ์เป็นช่วงที่ผมเริ่มเถียงกับแม่ถี่มากขึ้นทุกที บทความนั้นคัดมาจาก
นิตยสารฉบับหนึ่งของเม็กซิโก ผมอ่านบทความนั้นรวดเดียวจบทันที ....เมื่อฉันแก่ตัวลง
เมื่อฉันแก่ตัวลง ไม่ใช่ฉันที่เคยเป็นขอโปรดเข้าใจฉันมีความอดทนต่อฉันเพิ่มขึ้นอีกสักนิด
ตอนฉันทำแกงหกใส่เสื้อตัวเอง ตอนฉันลืมวิธีผูกเชือกรองเท้า ขอให้เธอคิดถึงตอนแรกๆ ที่ฉันใช้มือสอนเธอทำทุกอย่าง
ตอนฉันเริ่มพร่ำบ่นแต่เรื่องเดิมๆที่เธอรู้สึกเบื่อขอให้อดทนสักนิด อย่าเพิ่งขัดฉันเลย เพราะตอนเธอเล็กๆ ฉันยังเคยเล่านิทานซ้ำๆซากๆ จนเธอหลับเลย
ตอนฉันต้องการให้เธอช่วยอาบน้ำให้ อย่าตำหนิฉันเลยนะ ยังจำตอนที่เธอยังเล็กๆ ฉันต้องทั้งออดทั้งปลอบเพื่อให้เธอยอมอาบน้ำได้ไหม
ตอนฉันงงกับวิทยาการใหม่ๆ อย่าหัวเราะเยาะฉันจำตอนที่ฉันเฝ้าอดทนตอบคำถาม “ทำไม ทำไม”ทุกครั้งที่เธอถามได้ไหม
ตอนฉันเหนื่อยล้าจนเดินต่อไม่ไหว ขอจงยื่นมือที่แข็งแรงของเธอออกมาช่วยพยุงฉัน เหมือนตอนที่ฉันพยุง เธอให้หัดเดิน ในตอนที่เธอยังเล็กๆอยู่
หากฉันเผอิญลืมหัวข้อที่กำลังสนทนากันอยู่ ให้เวลาฉันคิดสักนิด ที่จริงสำหรับฉันแล้ว กำลังพูดเรื่องอะไรไม่สำคัญหรอก ขอเพียงมีเธออยู่ฟังฉัน ก็พอใจแล้ว
ตอนเธอเห็นฉันแก่ตัวลง ไม่ต้องเสียใจ ขอให้เข้าใจฉัน สนับสนุนฉัน ให้เหมือนตอนที่ฉันสนับสนุนเธอตอนที่เธอเพิ่งเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ตอนนั้นฉันนำพาเธอเข้าสู่เส้นทางชีวิต ตอนนี้ขอให้เธอเป็นเพื่อนฉันเดินไปให้สุดเส้นทางนี้ ให้ความรักและอดทนต่อฉัน ฉันจะยิ้มด้วยความขอบใจ และในรอยยิ้มของฉัน จะมีแต่ความรักอันหาที่สิ้นสุดมิได้
ของฉันที่มีให้กับเธอเมื่อผมอ่านบทความนั้นจบ เกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เมื่อแม่เดินออกมา ผมแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นตอนแรกแม่คงอยากให้ผมได้อ่านบทความนี้หลังจาก
ผมกลับไปแล้ว จึงคะยั้นคะยอให้นำข่าวปึกนั้นกลับไปตอนผมจัดกระเป๋าเดินทาง ผมต้องสละไม่เอาสูทกลับไป 1 ตัว จึงยัดเก็บปึกข่าวเหล่านั้นเข้าไปได้รู้สึกแม่จะดีใจมาก เหมือนกับว่าหนังสือพิมพ์เหล่านั้น
เป็นยันต์โชคลาภสำหรับผม และเหมือนกับว่าการที่ผมยอมรับ หนังสือพิมพ์เหล่านั้น ผมได้กลับมาเป็นเด็กดีของแม่อีกครั้งหนึ่ง แม่ตามมาส่งผมจนถึงรถ
หนังสือพิมพ์ที่ผมนำกลับมาเหล่านั้น ไม่ได้ใช้ทำประโยชน์อะไรเลย แต่บทความ “เมื่อฉันแก่ตัวลง”บทนั้น ผมได้ตัดเก็บไว้ในกรอบ ไว้ข้างตัวผมตลอด
ตอนนี้ ผมขออุทิศบทความนี้ ให้กับลูกทั้งหลายวันแม่หรือวันเกิด โทรไปหาท่านบ้าง บอกท่านว่าคุณอยากกินอาหารที่ท่านทำเสมอและบอก รัก คิดถึงท่านบ้าง..!!!
 https://plus.google.com/u/0/104033975208270543805/posts/Bjj33Kucs5S?pid=6317132745918293554&oid=104033975208270543805

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น