LINE@ คุณตาหินอ่อน >>> เพิ่มเพื่อน แชรฺ์ LINE >>>

วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ลูกเนรคุณ!!ได้ทรัพย์สินแล้วทอดทิ้ง!!แม่ แม่เรียกทรัพย์สินคืนได้นะ!!

12 สิงหาคม "วันแม่" ดังนั้น แฟนเพจทนายเพื่อนคุณ จึงใคร่ขอสะกิดจิตสำนึกสำหรับลูกผู้ละเลย เพิกเฉย ต่อบุพการี เพราะเราเชื่อว่า "บุพการีในวัยชรานั้นท่านอยากใช้ชีวิตบั่นปลายที่สงบสุขอยู่กับลูกกับหลานในครอบครัวที่อบอุ่น "
แต่บางครอบครัวก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ผู้สูงอายุกลับถูกทอดทิ้งไม่ได้รับการเหลียวแลจากลูกหลานหลังจากให้ทรัพย์สินแก่ลูกหลานจนหมดตัว ซึ่งในทางกฏหมายได้เผื่อทางหนีทีไล่ให้ครับ สำหรับการเรียกคืนทรัพย์สินจากลูกเนรคุณที่หลงลืมพ่อแม่!!

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
มาตรา 531 ได้กล่าวว่า ผู้ให้จะถอนคืนการให้ได้ด้วยเหตุที่ผู้รับประพฤติเนรคุณนั้นท่านว่าอาจจะเรียกได้แต่เพียงในกรณีดังจะกล่าวต่อไปนี้
(1)ถ้าผู้รับได้ประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดฐานอาญาอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายลักษณะอาญา หรือ
(2)ถ้าผู้รับได้ทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียง หรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง หรือ
(3) ถ้าผู้รับได้บอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำเป็นเลี้ยงชีวิตแก่ผู้ให้ ในเวลาที่ผู้ให้ยากไร้และผู้รับยังสามารถจะให้ได้
http://pantip.com/topic/30636209
จากข้อกฎหมายดังกล่าวมาข้างต้นนั้น ขออธิบายแยกย่อยเพื่อความกระจ่างของทุกคนทุกท่านดังนี้ครับ

1. ผู้รับประทุษร้ายต่อผู้ให้ด้วยความผิดฐานอาญาอย่างร้ายแรง เช่นการทำให้เสียอวัยวะของร่างกายหรือทำให้พิกลพิการ แต่บางรายไม่ถึงสาหัสก็ถอนการให้ได้เพราะศาลมองเห็นว่าเป็นการทำร้ายบุพการี
ฎีกา 412/2528 การที่จำเลยทำร้ายร่างกายโจทก์ผู้เป็นมารดาจนได้รับอันตรายแก่กาย ย่อมเป็นการแสดงว่าจำเลยขาดความกตัญญู แม้โจทก์จะได้รับบาดเจ็บไม่ถึงสาหัสก็ถือได้ว่าจำเลยได้ประพฤติเนรคุณโดยประทุษร้ายต่อผู้ให้เป็นความผิดฐานอาญาอย่างร้ายแรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(1) แล้ว โจทก์จึงเรียกถอนคืนการให้ได้
2.ผู้รับทำให้ผู้ให้เสียชื่อเสียงหรือหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรง สำหรับกรณีนี้ขอชี้แจงว่าการหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรงนั้นไม่จำเป็นต้องถึงระดับความผิดฐานหมิ่นประมาทในทางอาญา เพียงแต่ผู้เนรคุณกล่าวถ้อยคำที่หยาบคาย ไม่สุภาพ แสดงถึงการเหยียดหยามและไม่ให้ความเคารพนับถือก็ถือได้ว่าเป็นถ้อยคำหมิ่นประมาทผู้ให้อย่างร้ายแรงแล้ว ครับ
ฎีกา 3502/2535 หมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 531(2)หาจำเป็นต้องถึงกับเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาททางอาญาไม่เพียงแต่ได้ความว่า เจตนาดูหมิ่นก็ถือว่าประพฤติเนรคุณแล้ว จำเลยซึ่งได้รับการให้ที่ดินจากโจทก์ผู้เป็นบิดาด่าว่าโจทก์ว่า "ไอ้แก่กูไม่นับมึงเป็นพ่อ ออกไปให้พ้น ไม่ไปมึงตายกูไม่รับรู้" เป็นการแสดงเจตนาดูหมิ่นโจทก์เรียกโจทก์ว่าไอ้แก่ ขึ้นมึงขึ้นกูกับโจทก์ว่าไม่นับถือโจทก์เป็นบิดา ขับไล่โจทก์ออกไปให้พ้น มิฉะนั้นโจทก์ตายจำเลยไม่รับรู้ ย่อมทำให้โจทก์อับอายเสียชื่อเสียงและเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์อย่างร้ายแรง โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขอให้ถอนคืนการให้เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณได้
3.ผู้รับบอกปัดให้สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตต่อผู้ให้เมื่อผู้ให้ร้องขอและผู้รับมีกำลังที่จะให้ได้

ฎีกา 3601/2542
การให้ที่ดินพิพาทจึงไม่ใช่การให้สิ่งที่มีค่าภาระติดพัน จำเลยที่ 1 บอกปัดไม่ยอมให้เงินโจทก์ซื้อยารักษาตัวอันเป็นการบอกปัดไม่ยอมให้สิ่งของจำ เป็นเลี้ยงชีวิตแก่โจทก์ในเวลาที่โจทก์ยากไร้และจำเลยที่ 1 ยังสามารถจะให้ได้ โจทก์จึงเรียกถอนคืนการให้ได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 531 (3)
จาก 3 กรณีที่เล่ามาเข้าข้อใดข้อหนึ่งก็ฟ้องเรียกคืนได้ครับ แต่อย่าลืมเรื่องอายุความเพราะ การถอนคืนการให้นี้ต้องฟ้องถอนคืนการให้ภายใน 6 เดือนนับจากวันที่รู้เหตุเนรคุณ
จากการตรวจค้นดูฎีกาเรื่องนี้ ถ้าผู้รับเนรคุณจริง และคดีไม่ขาดอายุความ และเหตุแห่งการเนรคุณตรงตาม ข้อใดข้อหนึ่งใน 3 ข้อที่กล่าวมา ผู้ให้ย่อมชอบที่จะได้คืนเพราะกฏหมายมีเจตนารมณ์ที่จะปกป้องคุณธรรมในสังคม การกตัญญูรู้คุณคนเป็นสิ่งสำคัญครับ ชังน้ำหน้าจริงๆลูกเนรคุณ!!!
https://www.facebook.com/Bestthailawyer/photos/a.1641506709433008.1073741826.1641474646102881/1725673517682993/?type=3&theater

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น